“สนั่น” บิ๊ก “ศรีไทยฯ” ลั่นพร้อมหนุนบริษัทในเครือ “เอสเนเจอร์” แจ้งเกิด สะเทือนวงการขายตรง! ทุ่ม 50 ล้านปรับลุค 14 สาขา ช่วยนักขายขยายตลาด อัดเพิ่มอีก 20 ล้านเปิดสาขาโคราชเจาะตลาดอีสาน บุกจัด OPP ทั่วประเทศ ส่วน 20
ธ.ค.นี้จัดงานเปิดสาขารังสิตเพิ่มอีก แถมปีหน้าเล็งผุดเพิ่ม 15 สาขา 15 จังหวัด ก่อตั้ง“สถาบันพัฒนานักธุรกิจเครือข่าย” เสริมหลักสูตรอบรมสมาชิกแบบเข้มข้น เตรียมรับมือการเติบโตแบบก้าวกระโดดสู่พันล้าน ย้ำภาพ “ธุรกิจเครือข่ายไทย สู่ ธุรกิจเครือข่ายสากล”
“นอกจากนี้ในส่วนของการปรับปรุงสาขาที่มีอยู่เดิม 14 สาขา ที่ใช้งบลงทุนร่วม 50 ล้านบาท เพื่อตระเตรียมห้องประชุมและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบครัน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม ทันสมัย จะทยอยเสร็จตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป และคาดว่าทุกสาขาจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ซึ่งยังไม่นับรวมกับการลงทุนอีกเกือบ 20 ล้านบาทในการซื้อตึกใจกลางเมืองโคราช เพื่อรองรับการเติบโตของหัวเมืองใหญ่ในภาคอีสาน ที่จะแล้วเสร็จในต้นปีหน้าเช่นกัน” นายสนั่นกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีพิธีเปิดสาขารังสิตอย่างเป็นทางการ ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค.นี้ เพื่อรองรับสมาชิกที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆให้ได้ทั่วถึง โดยในวันดังกล่าวจะมีพิธีการทำบุญตามประเพณี และพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่เหมือนสาขาเชียงใหม่ ทั้งยังจะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ ของที่ระลึกสมนาคุณ และรางวัลใหญ่ให้ลุ้นโชคมากมาย
นายสนั่นกล่าวต่อว่า “การลงทุนของเอสเนเจอร์ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากมีการแข่งขันของผู้นำในแต่ละพื้นที่ ที่ต้องการจะเปิดสาขาในจังหวัดต่างๆตามนโยบายของผม ที่ประกาศอย่างหนักแน่นและชัดเจนว่า จังหวัดไหนพร้อมก่อนได้ก่อน โดยจะเล็งเห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้นำในแต่ละพื้นที่เป็นหลักใหญ่
โดยคาดว่าภายในปี 2553 จะต้องทำการสร้างสาขาใหม่เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 15 สาขาใน 15 จังหวัด รวมแล้วปลายปี 2553 ก็จะมีสาขาของเอสเนเจอร์ทั่วประเทศถึง 31 สาขา ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของผู้นำและสมาชิกผู้บริโภค ที่จะสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมพนักงานที่จะคอยให้บริการอย่างอบอุ่นและประทับใจ”
อย่างไรก็ดี สำหรับความสำเร็จที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเพราะมีบริษัทแม่คือศรีไทย ทำให้สมาชิกส่วนมากจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้มุ่งหวัง เมื่อไปแนะนำสินค้าหรือชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจ ก็จะได้รับการตอบตกลงอย่างง่ายดาย เพียงแค่บอกว่าเอสเนเจอร์เป็นของบริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เพราะภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ที่มั่นคง ซื่อสัตย์ เปิดเผย มีธรรมาภิบาล และให้ความอบอุ่นต่อสมาชิกดั่งหุ้นส่วนธุรกิจอย่างแท้จริง ทั้งยังมีนโยบายหลัก ที่ให้สมาชิกเป็นศูนย์กลางต่างจากบริษัทขายตรงอื่น
“ขณะนี้ เอสเนเจอร์พร้อมแล้วที่จะทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของผู้นำและสมาชิกทุกคนในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักนั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และพูดอยู่เสมอว่า “เอสเนเจอร์” นั้นอาจยังรู้จักกันไม่กว้างขวางนัก แต่ต่อไปนี้ทุกคนจะได้รู้ว่า “เอสเนเจอร์” มีนามสกุลว่า “ซุปเปอร์แวร์” คนก็จะรู้จักกันทั้งประเทศ และมีความเชื่อถือเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของเอสเนเจอร์จะต้องออกมาดีเสมอ เหมือนผลิตภัณฑ์ของซุปเปอร์แวร์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลก คุณภาพสูง มาตรฐานเทียบเท่ากับเคาน์เตอร์แบรนด์ ซึ่งความเชื่อมั่นเหล่านี้ทำให้สมาชิกในระดับผู้นำ เริ่มตบเท้าเข้ามาสมัครกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นผู้บริโภคทั่วไปที่เคยซื้อกินซื้อใช้กันเป็นประจำ ยังหันมาเริ่มทำธุรกิจอย่างจริงจัง” นายสนั่นกล่าว
ล่าสุดบริษัทฯยังได้ก่อตั้ง “สถาบันพัฒนานักธุรกิจเครือข่าย” หรือ “Business Campus” ขึ้นเพื่อฝึกอบรมสมาชิกหุ้นส่วนธุรกิจของเอสเนเจอร์ ที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยหลักสูตร 4 ก้าวสู่ความสำเร็จ เพื่อดึงศักยภาพมนุษย์ออกมาใช้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยใน “Business Campus” สมาชิกทุกท่านก็จะได้พบกับหลักสูตรการฝึกอบรม ที่มีการผสมผสานการเรียนรู้ทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดปัญญาและประสบความสำเร็จในทุกๆด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น “Motivation” “How to” และ “Spiritual”
นอกจากนี้การจัดประชุมเปิดโอกาสทางธุรกิจ (OPP) ของบริษัทฯในจังหวัดต่างๆ ยังมีการจัดทั่วประเทศเกือบ 100 ครั้งต่อเดือน เพื่อให้สมาชิกมีความสะดวกในการเข้าประชุมหรือรับการอบรม สำหรับหลักสูตรฝึกอบรม 4 ก้าวสู่ความสำเร็จ ก็กำลังดำเนินการจัดฝึกอบรมกันอย่างต่อเนื่อง กระจายไปตามสาขาและจังหวัดต่างๆ และอาจมีการรับวิทยากรประจำบริษัทฯเพิ่มเติมจำนวนมาก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดสู่หลักพันล้านบาท
นายสนั่น ได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “สิ่งที่เอสเนเจอร์ ได้รับการยอมรับมากที่สุด นั่นคือ แผนการจ่ายผลประโยชน์ ที่สมาชิกต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นแผนที่เรียบง่าย จ่ายได้จริง มีความยุติธรรม ตอบโจทย์สำหรับการเป็นเครือข่ายผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน ใครก็ตามที่กำลังมองหาธุรกิจที่แทบจะไม่ต้องใช้เงินลงทุน แต่ให้ผลตอบแทนที่มั่งคั่งและยั่งยืน ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นจากการใช้สินค้ามีคุณภาพ เอสเนเจอร์คือคำตอบ เพราะนี่คือธุรกิจของคนไทย ที่พร้อมจะให้พวกเราเติบโตไปด้วยกัน ก้าวไปสู่เวทีระดับสากล เป็นต้นสายเครือข่ายโลก นำพา “ธุรกิจเครือข่ายไทย สู่ ธุรกิจเครือข่ายสากล”
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 7 ฉบับที่ 169 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 ป้ายกำกับ: ขายตรง, ธุรกิจขายตรง, ธุรกิจเครือข่าย, ธุรกิจ mlm, agel, amway, herbalife, mlm, network marketing, nuskin, unicity, usana
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น