“สคบ.”งัดไม้เด็ดล่าสุด! หลัง “สาทิต วงศ์หนองเตย” รมต.ประจำสำนักนายกฯ สั่งการให้ตรวจแถวบริษัทขายตรงรอบสอง เหตุรอบแรกเรียกมาร่วมประชุมเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา กลับโผล่มาไม่ถึงครึ่งตามฐานข้อมูลในทะเบียน “จิรชัย
มูลทองโร่ย” รองเลขาฯสคบ.คนใหม่ล่าสุด แย้มเตรียมควงแขนผู้บังคับบัญชา เลขาฯสคบ.“นิโรธ เจริญประกอบ” เดินสายเยี่ยมสำนักงานทุกบริษัท ชี้หวังดีอยากร่วมชี้แนะให้อยู่ในกรอบระเบียบ ดีเดย์ดำเนินการต้นเดือนนี้ หากพบใครแตกแถวเตรียมจัดการขั้นต่อไป แย้มมีบัญชีดำอยู่ในมือแล้ว
นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้เข้ามารับตำแหน่งนี้ จากการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงได้เริ่มรับแผนการปฏิบัติงานตามแนวนโยบายของผู้บังคับบัญชา คือท่านเลขาฯนิโรธ เจริญประกอบ โดยหนึ่งในแผนปฏิบัติหน้าที่เร่งด่วนขณะนี้ คือการเข้ามาดูแลและช่วยตรวจสอบบริษัทขายตรงที่เคยจดทะเบียนไว้กับสคบ.ทั้งหมด
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สคบ.ได้เคยมีการเรียนเชิญผู้ประกอบการขายตรงกว่า 500 รายเข้ามา ประชุมพบปะเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับพรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พศ.2545 ไปจนถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกรอบของกฏหมายให้ตรงกันไปแล้ว แต่ในครั้งนั้นปรากฏว่า กลับมีผู้ประกอบการเดินทางมาร่วมกิจกรรมไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรายชื่อทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เองปฏิบัติการณ์ครั้งต่อไป คือการเดินทางเข้าไปตรวจสอบถึงตัวของสำนักงานแต่ละบริษัท
“สคบ.เสียใจที่เราเชิญบริษัทที่จดทะเบียนเหล่านั้นแล้วคุณกลับไม่มา ฉะนั้นแนวทางต่อไปของท่านเลขาฯนิโรธ ที่เป็นความหวังมาเกือบครึ่งปี ว่าจะต้องให้สำนักกฎหมายและคดี โดยกลุ่มงานขายตรงฯ ออกไปตรวจออกไปติดตามให้คำแนะนำกับบริษัทขายตรง จึงกำลังจะเริ่มขึ้นจริงแล้ว” นายจิรชัยกล่าว
ทั้งนี้สำหรับตนในฐานะของรองเลขาฯที่ดูแลในส่วนของกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ผมจึงทำแผนประชาสัมพันธ์ในแต่ละไตรมาส และให้งานกับทุกสำนักทุกกองว่าต้องวางแผนงานแต่ละไตรมาสเช่นกัน โดยในส่วนของสำนักกฎหมายและคดีกลุ่มงานขายตรง ยังรวมถึงการเข้าไปเยี่ยมเยียนบริษัทขายตรง เพื่อเข้าไปแนะนำและรับฟังปัญหา พร้อมกับช่วยตรวจสอบว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการทำอยู่นั้น ทั้งในเรื่องของสินค้าและแผนการตลาด ถูกต้องตามที่เคยจดทะเบียนไว้กับสคบ.หรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะมีการแนะนำให้ทำตามข้อกำหนดที่ถูกต้องในลำดับถัดไป โดยคาดว่าจะมีการเริ่มลงพื้นที่ ภายใน 1 สัปดาห์นี้ และวางแผนว่าจะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกสัปดาห์
“ทุกอย่างเป็นเพราะท่านสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการมา จึงเป็นนโยบายของสคบ.โดยท่านนิโรธ มาเร่งรัดในการดำเนินการอีกทอดหนึ่ง เพราะว่าท่านรมต.เห็นแล้วว่า มีการจดทะเบียนบริษัทขายตรงจำนวนมาก แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่า ทำธุรกิจอยูจริงหรือไม่ ขณะที่ท่านนิโรธก็รายงานว่า มีการเรียกเข้ามาแล้วแต่มาไม่ถึงครึ่ง ท่านสาทิตจึงแนะว่าหากเขาไม่เข้ามา ก็ให้ทางสคบ.เข้าไปเยี่ยมเยียนเองเลย ซึ่งการเข้าไปเยี่ยนเยียนในครั้งนี้ผมและท่านนิโรธจะสลับกันลงพื้นที่เองอีกด้วย” รองเลขาฯกล่าว
อย่างไรก็ดีตนจึงขอฝาก “เส้นทางนักขาย” ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยว่า คราวนี้สคบ.ไปดี ไปพบปะเยี่ยมเยียนและแนะนำ อย่าได้ตกอกตกใจ สคบ.จะมีการแจ้งขอความอนุเคราะห์เข้าไปก่อน เพราะสคบ.มีคติประจำใจว่า ไม่เห็นผู้ประกอบกิจเป็นอาชญากร
“แต่กรณีที่จะมีการบุกเข้าไป พร้อมกำลังของเจ้าหน้าที่รัฐที่MOUกันไว้ จนทำให้ต้องตกอกตกใจ ผมคงไม่บอกหรอกว่า สคบ.จะเข้าไปเมื่อไหร่ แต่จะปล่อยให้รู้เอง เพราะบัญชีดำที่อยู่ในมือก็มีหมดแล้ว” รองเลขาฯสคบ.กล่าวทิ้งท้าย
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 7 ฉบับที่ 169 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 ป้ายกำกับ: ขายตรง, ธุรกิจขายตรง, ธุรกิจเครือข่าย, ธุรกิจ mlm, agel, amway, herbalife, mlm, network marketing, nuskin, unicity, usana
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น