| ‘TKL’ลั่น !ขอบูมตำนาน‘โสมซานชี’มั่นใจปี’53เป้า500ล.-3ปีครองTOP3 |
| “TKL” ลั่น!ขอครองเจ้าตำนาน “โสมซานชี” หลังเป็นผู้ผลิตเบื้องหลังขายตรงหลายเจ้านับสิบปี ครองเครือข่ายมากกว่า 11 ประเทศ มั่นใจปีนี้เปิดแนวรุกเต็มสูบ ดันยอดสิ้นปีทะลุ 500 ล้านบาท 3 ปี ไต่ขึ้น TOP3 ขายตรงไ |
 โดยปัจจุบัน บริษัทมีสาขาอยู่ 11 ประเทศได้แก่ ไทย, จีน, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ลาว, ไต้หวัน, เวียดนาม, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, พม่า และสิงคโปร์ โดยทั้งหมดเป็นประเทศที่อยู่ในเอเชีย เนื่อง จากบริษัทต้องการที่จะทำให้เอเชียเป็นศูนย์กลางก่อน เพราะตลาดเอเชียค่อนข้างที่จะมีความรู้ในเรื่องของโสมที่เป็นผลิตภัณฑ์ของ บริษัท อย่างไรก็ดีสำหรับการขยายตลาดของที เค แอล นั้น บริษัทมั่นใจว่าปี 53 นี้ จะสามารถขยายเพิ่มได้ถึง 25-30 ประเทศ โดยมีเป้าหมายต่อไปที่ประเทศกัมพูชา ส่วนในอนาคตบริษัทมองไปถึงตลาดใหญ่ๆ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นประเทศที่มีความเป็นประเทศมหาอำนาจในด้านต่างๆรวมถึงเศรษฐกิจ ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดแข็งที่จะสร้างกำไรให้บริษัท เพราะผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เข้าไปขายในแต่ละประเทศนั้น ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของแต่ละประเทศได้เป็นที่เรียบร้อย มีใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนของการปลูก ที่มีโรงงานการผลิตใน 4 ประเทศ คือ ไต้หวัน จีน ไทย และลาว ซึ่งในประเทศลาว เป็นโรงงานที่มีความใหม่ที่สุด ใช้ทุนในการก่อสร้างกว่า 20 ล้านบาท โดยบริษัทมีความต้องการที่จะผลักดันให้โสมซานชี เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการยอมรับ และรับรู้ถึงคุณประโยชน์จากคนทั่วโลก เนื่องจากบริษัทใช้เวลากว่า 18 ปี ในการวิจัยโสมชนิดนี้ และไม่เพียงแต่โสมซานชีเท่านั้น ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท แต่ยังมีกว่า 30 ชนิดสินค้าที่ทำการจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย และกว่า 10 ชนิด ที่ทำการจำหน่ายอยู่ในอีก 11 ประเทศ ซึ่งจัดเป็นจุดแข็งของ ที เค แอล ซึ่งทำให้บริษัทสามารถจ่ายค่าปันผลให้กับสมาชิกนักขายได้มาก เพราะบริษัทเป็นผู้ผลิตเอง ลดต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย และสมาชิกจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขายมากกว่าที่อื่นที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตเอง อย่างไรก็ตามในปี 2553 นี้ ที เค แอล ตั้งเป้ายอด ขายไว้ที่ 500 ล้านบาท ขยายศูนย์ได้ 100 ศูนย์ และตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปีจะก้าวขึ้นสู่ TOP 3 ของวงการขายตรงในประเทศไทย และในอนาคตจะรุกขยายสาขาให้ครอบคลุม 207 ประเทศทั่วโลก อนึ่งโสมซานชี เป็นพืชยืนต้น กระจัดกระจายอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของ จีน มีแหล่งกำเนิด ณ ็เหวินซานโจวิ จังหวัดยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และ 85% ของโสมซานชีในประเทศจีนปลูก ณ เหวินซานโจว โสมซานชีที่มี คุณภาพดีที่สุดเพียงแห่งเดียว เนื่องจาก สภาพภูมิอากาศอุณหภูมิ ดิน น้ำ ที่เหมาะสมเรียกว่า แหล่งเพาะปลูกที่ดีและได้มาตรฐานโลก GAP (GOOD AGRICULTURAL PRODUCT) ผลิต ภัณฑ์โสมซานชี ทุกชนิดผลิตมาจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP (GOOD MANUFACTURING PRACTICES) ควบคุมการผลิตโดยแพทย์เภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน โสมชนิดนี้ จะมีประโยชน์ในเรื่องของการสร้างสมดุลให้กับการไหลเวียนของหลอดเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด ลดการอุดตัน อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของ การขจัดสิ่งที่เป็นส่วนเกิน และสารพิษในกระแสเลือดได้ดี |
| อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 7 ฉบับที่ 172 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 มกราคม 2553 |
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น